Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

"กบคอนโด"ปศุสัตว์แนวใหม่

การเลี้ยงกบในยางรถยนต์ หรือที่เรียกว่า "กบคอนโด" อันเกิดจากแนวคิดของ ฉอ้อน เผนโคกสูง เกษตรกรวัย 48 ปี แห่งบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นับเป็นปศุสัตว์แนวใหม่ ที่นอกจากจะสร้างรายได้ให้ครอบครัวในแต่ละเดือนไม่น้อยแล้ว ยังสนับสนุนให้เพื่อนเกษตรกรหันมาเลี้ยง เพราะวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก ใช้พื้นที่และการลงทุนน้อย แถมกบแข็งแรง เลี้ยงง่าย ตัวโต ขายได้ราคา เป็นที่ต้องการของตลาด
ฉอ้อน บอกว่า ได้คิดค้นวิธีการเลี้ยงกบคอนโดตั้งแต่ปี 2527 หรือ 22 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นคนแรกของประเทศที่เลี้ยงกบด้วยวิธีนี้ และประสบผลสำเร็จ เพราะการเลี้ยงกบของเกษตรกรทั่วไปจะใช้บ่อซีเมนต์ ซึ่งกบจะไม่โตและแข็งแรงเท่าการเลี้ยงแบบคอนโด เนื่องจากการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์กบจะมีพื้นที่ในการกระโดดมาก และจะกระโดดไปกัดกันตลอดเวลา ทำให้กบอ่อนแอ บางตัวก็ตาย แต่การเลี้ยงกบคอนโด กบจะมีพื้นที่กระโดดน้อย บางตัวจะแยกย้ายกันอยู่ตามชั้นของยางรถยนต์โดยไม่รบกวนกัน
การเลี้ยงกบคอนโดนั้น ฉอ้อนบอกมีเพียงวัสดุคือ ยางรถยนต์เท่านั้น ก็สามารถเลี้ยงได้แล้ว เพียงนำยางรถยนต์มาซ้อนกันประมาณ 4-5 ชั้น แล้วน้ำลูกกบลงไปเลี้ยงพร้อมกับใส่น้ำไว้ในล้อรถยนต์เพื่อให้ความเย็นกับกบ ซึ่งกบจะแยกย้ายกันอยู่เป็นชั้นๆ ไม่มีการรบกวนกัน จากประสบการณ์ที่เลี้ยงมานาน ทำให้รู้ว่ากบที่เลี้ยงด้วยวิธีนี้จะแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ ส่วนการให้อาหารก็ใช้อาหารอัดเม็ดของปลาดุก โยนลงไปในล้อรถยนต์ มันก็จะพากันกิน แถมการเลี้ยงแบบคอนโดยังประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่าย รวมทั้งประหยัดพื้นในการเลี้ยง สะดวกกว่าอีกด้วย
"อยากให้เกษตรกรที่สนใจหันมาเลี้ยงด้วยวิธีนี้กันดู รับรองสร้างรายได้ให้อย่างงามแน่ ซึ่งตนเพาะเลี้ยงไว้ประมาณ 20-30 คอนโดเท่านั้น โดยในการจับแต่ละครั้งจะไม่ต่ำกว่า 200-300 กิโลกรัม ส่วนจำนวนการเลี้ยงก็แล้วแต่ขนาดยางรถยนต์ ถ้าล้อรถสิบล้อก็เลี้ยงล้อละ 100 ตัว 3 ชั้นก็เป็น 300 ตัว ถ้าล้อรถปิกอัพ ก็ล้อละ 50 ตัว 3 ชั้น รวม 150 ตัว ขายส่งกิโลกรัมละ 90 บาท ส่วนระยะเวลาการเลี้ยงเพียง 3 เดือนก็ขายได้แล้ว" ฉอ้อน บอกและว่า ที่ผ่านมาเลี้ยงด้วยวิธีนี้มักไม่ค่อยมีปัญหา จะมีอยู่ก็อย่างเดียวคือเรื่องน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงการเลี้ยงในฤดูแล้ง
อย่างไรก็ตาม ฉอ้อนบอกว่า ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะการเลี้ยงกบในคอนโดตามแนวคิดนี้จะใช้น้ำไม่มากเหมือนเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ที่ต้องให้น้ำอยู่ตลอดเวลา แถมสร้างรายได้เกินคุ้ม ขณะที่ตลาดยังเปิดรับซื้อไม่อั้น แถมพ่อค้าแม่ค้าบางรายไปรับซื้อถึงบ่อ
พร้อมกันนี้ ได้ฝากถึงเพื่อนเกษตรกรที่คิดจะเลี้ยงกบด้วยวิธีนี้ว่า ให้หาซื้อพันธุ์กบทั่วไปได้ตามท้องตลาดในราคาตัวละ 1 บาท แต่สำหรับของตนจะขายแพงกว่าที่อื่น ในราคาตัวละ 5 บาท เพราะเป็นสายพันธุ์กบนาพื้นบ้านขนานแท้ ที่มีความแข็งแรง เลี้ยงง่าย ตัวโต และขายได้ราคาดี

ไม่มีความคิดเห็น: